ถั่งเช่ากับผู้ที่มีปัญหาภาวะโลหิตจาง

ถั่งเช่ากับผู้ที่มีปัญหาภาวะโลหิตจาง

” ถั่งเช่ากับผู้ที่มีปัญหาภาวะโลหิตจาง ” เหล่าคนที่รักสุขภาพเกือบทุกคน คงจะรู้สรรพคุณของยอดเห็ด “ ถั่งเช่า ” กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเป็นที่รู้กันแน่นอนเลยคงจะเป็นเรื่อง การชูกำลังสำหรับผู้ชาย ให้เครื่องติดฟิตปึ๋งปั๋ง และอีกประโยชน์สำคัญที่มีผลทั้งผู้ชายและผู้หญิงเลยก็คือการช่วยบำรุงเลือด-ลดอาการอ่อนเพลีย มีส่วนช่วยฟื้นฟูภาวะโลหิตจางได้ การบำรุงเลือดของถั่งเช่า มาจากสารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) ที่เป็นสารเฉพาะตัวของถั่งเช่า ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการไหลเวียนเลือด บำรุงโลหิตให้หมุนเวียนไปทั่วทั้งร่างกายทำให้กล้ามเนื้อและอวัยวะอื่นๆ ทำงานได้ตามปกติ

นอกจากคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) แล้วถั่งเช่ายังมีสารอะดีโนซีน (Adenosine) และสารคอร์ไดเซปิก (Cordycepic Acid) ที่ช่วยต้านการแข็งตัวของเลือด สลายลิ่มเลือด ต้านการเกิดลิ่มเลือด ป้องกันเลือดออกในสมอง มีส่วนช่วยหัวใจขาดเลือดได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามหากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาอาจนำไปสู่โรคแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ เป็นต้น

คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน ชะลอความชราด้วยถั่งเช่า

ภาวะโลหิตจาง เกิดจากอะไร

 ภาวะโลหิตจาง เกิดได้จาก 3 สาเหตุหลัก ได้แก่ การเสียเลือด ไขกระดูกลดการสร้างเม็ดเลือด และเม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นกว่าปกติ

1. การเสียเลือด (แบบเฉียบพลัน)

การเสียเลือดแบบเฉียบพลันเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในภาวะโลหิตจาง เช่น เลือดออกจากแผล อุบัติเหตุ แผลเรื้อรังในร่างกาย เช่น แผลในกระเพาะอาหาร แผลมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีประจำเดือนผิดปกติ

2. ไขกระดูกลดการสร้างเม็ดเลือดแดง

• จากโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง (โดยเฉพาะโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว) โรคติดเชื้อเรื้อรัง (วัณโรค) โรคติดเชื้อเอชไอวี (HIV/AIDS) และโรคไตเรื้อรัง
• จากขาดอาหารโดยเฉพาะโปรตีน เกลือแร่ เหล็ก วิตามิน บี 6 วิตามิน บี 9 (โฟลิก แอซิด/Folic acid) และวิตามิน บี 12 ซึ่งใช้ในการสร้างเม็ดเลือดแดง
• จากยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัดที่ใช้รักษาโรคมะเร็ง
• จากร่างกายขาดฮอร์โมนบางชนิดที่ช่วยการสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น ฮอร์โมนเพศ
• ในหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ต้องการใช้เลือดมากขึ้นจากการเลี้ยงดูทารก จึงทำให้ดูเหมือนไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดไม่พอ เหมือนสร้างได้ลดลง
• จากโรคเลือดบางชนิดที่ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อยกว่าปกติ ทั้งนี้ อาจจากพันธุกรรม

3. เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นกว่าปกติ

เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นกว่าปกติ เช่น โรคเลือดบางชนิดที่พบบ่อย คือ โรคธาลัสซีเมีย, โรคภูมิแพ้ตนเอง (ภูมิต้านตนเอง) หการแพ้ยาบางชนิด หรือ แพ้สารในเลือดจากการให้เลือด และการติดเชื้อรุนแรงบางชนิด เช่น ภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิต

คุณอาจสนใจบทความที่เกี่ยวข้อง คลิกอ่าน ผู้ป่วยเบาหวานกับถั่งเช่า

โลหิตจาง อย่างวางใจ

 เราสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นของการเป็นโลหิตจางได้ ดังนี้ มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ใจสั่น มึนงง หน้ามืด วิงเวียน และมีอาการเบื่ออาหาร บริเวณใบหน้ามีอาการซีด และสำหรับผู้ที่เป็นมานานมีอาการเรื้อรัง อาจสังเกตได้จากมุมปาก ที่จะลักษณะเปื่อย เล็บมือเล็บเท้าจะอ่อนแอและแบน หรือเล็บเงยขึ้นมีแอ่งตรงกลางคล้ายช้อน ทั้งนี้ โลหิตจางเล็กน้อยอาจไม่มีอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย แต่ก็อย่าวางใจไป เพราะภาวะนี้นำไปสู่โรคแทรกซ้อนอย่างโรคหัวใจล้มเหลวได้ เพราะถ้าร่างกายคนเราเลือดจางมากๆ กลไกของหัวใจต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี่ยงร่างกายให้มากขึ้น อาจมีหัวใจโต เกิดภาวะหัวใจวายได้

ป้องกันได้อย่างไร

 การป้องกันภาวะซีดหรือโรคโลหิตจางสามารถทำได้โดยเริ่มต้นที่ตัวเองง่ายๆ คือ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามรับให้ครบห้าหมู่ครบทุกมื้ออาหาร และทำให้เป็นประจำทุกๆ วัน และเลือกรับประทานอาหารเสริมที่มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงเลือดอย่าง ถั่งเช่า เพื่อป้องกันภาวะซีดจากการขาดความสมดุลของเลือด  และหมั่นตรวจสุขภาพประจำปี ตั้งแต่อายุยังน้อย เช่น อายุ 18 ปี ก็สามารถเข้ารับการตรวจได้แล้วครับ สำหรับคุณผู้หญิงที่อยากมีบุตร แนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการตั้งครรภ์ เพื่อดูความเสี่ยงของโรคเลือดต่างๆ ทางพันธุกรรมที่อาจเกิดกับลูกได้ เช่น โรคธาลัสซีเมีย หรือ ประจำเดือนมามากผิดปกติบ่อยๆ ก็ควรเข้าพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุเพื่อที่จะเข้าควบคุมรักษาได้อย่างทันท่วงที